บันได 34 ขั้น แมงเม่าไต่เต้าสู่เซียนหุ้น
- นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ ต้องค้นให้พบแนวทางของตัวเอง มีต้นแบบได้ แต่ต้องไม่ใช่การลอกเลียนแบบผู้อื่น ต้องไม่ยืมจมูกคนอื่นหายใจ แต่ต้องลองถามตัวเองดูว่าเป็นอย่างนั้นหรือไม่ ถ้าใช่ ต้องรีบหาแนวทางของตัวเองให้เจอ
- อย่าคิดว่าเราเก่งกว่าคนอื่น ยังมีคนที่รู้มากกว่าและเก่งกว่าเราตั้งเยอะ เราต้องรู้ให้ได้ว่าหุ้นที่เราจะซื้อเราซื้อหุ้นตัวนี้เพราะอะไร เราต้องตอบให้ได้ว่า หุ้นตัวนี้จะขึ้นด้วยเหตุผลอะไร ถ้าตอบได้โอกาส ชนะ ก็มีมากกว่าครึ่ง คนจะเกิดในตลาดหุ้นมันต้องเกิดจากการไขว่คว้า ไม่ใช่ฟลุ๊ค
- ความรู้เรียนทันกันได้ ประสบการณ์ก็เรียนรู้ได้ แต่อุปนิสัยกับวิธีคิดของคนเราเปลี่ยนไม่ง่าย เราต้องเริ่มต้นจากการยอมรับความผิดพลาดของเราเอง อย่าไปโทษคนอื่น นำกลับมาแก้ไขแล้วคุณจะเล่นหุ้นเก่งขึ้น
- ถ้าเราเลือกหุ้น P/E ต่ำ พื้นฐานดี แต่ซื้อแล้วราคาไม่ขึ้นมีแต่ลง แสดงว่าความคิดของเราผิด คุณต้องเปลี่ยน อย่าดันทุรัง โดยพื้นฐานแล้ว ความสำเร็จไม่ได้ยากไปกว่าความล้มเหลว แต่ทำไมนักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดหุ้นจึงมักสัมผัสรสชาติของการขาดทุนมากกว่ากำไร นั่นเพราะคุณยังไม่รู้จริง
- หุ้นที่เล่นแล้วได้กำำไรมากกว่าขาดทุน จะเป็นหุ้นที่กำลังอยู่ในกระแสนิยมของตลาดในช่วงเวลานั้นๆ ข้อสำคัญคือ เราต้องพยายามอ่านหลักจิตวิทยาของตลาดว่า คนอื่นเขาคิดอย่างไร กับหุ้นตัวที่เราจะเล่น อย่าพยายามคิดเอง เออเองคนเดียว สมมติว่า ขณะนั้น SET กำลังนิยมหุ้นกลุ่มไหน เราก็ต้องจับตามองหุ้นกลุ่มนั้น เพราะการฝืนกระแสจะทำให้เรา เสี่ยงสูง ที่จะขาดทุน
- การเล่นหุ้นฝืนทิศทางตลาด มีเคล็ดลับการเล่นหุ้นประเภทนี้ให้ประสบความสำเร็จ เพราะหุ้นจะมีวัฏจักร หรือรอบของมัน คุณต้องรอให้มันตกก่อนคุณค่อยเข้ามาเล่น ช่วงนั้นก็รออย่างเดียว เชื่อว่า เดี๋ญวมันต้องตก
- เราต้อง ซื้อตามแนวโน้มตลาด คำว่า รู้จริง จะต้องเข้าใจทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ การที่คุณอ่านหนังสือเท่ากับรู้แค่ทฤษฎี ยังถือว่า ไม่รู้จริง ต้องเอา 2 อย่างนี้มาใช้ร่วมกัน เพื่อสร้างประสบการณ์แห่งการเรียนรู้ให้เกิดขึ้น
- เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน วิธีคิดก็ต้องเปลี่ยน ทำไมคน 2 คน มาจากพื้นฐานเดียวกันทุกอย่าง คนหนึ่งเล่นหุ้นได้กำไร อีกคนหนึ่งเล่นหุ้นขาดทุนั ก็เพราะทัศนคติของคน 2 คนนี้แตกต่างกัน
- หากเวลาเล่นหุ้นเป็นเวลาขา่ลง เราต้องตัดทิ้งอย่าถือและอย่าซื้อถัวเฉลี่ย
- ถ้าช่วงไหนที่โบรกเกอร์หรือนักวิเคราะห์ออกมาเตือนว่าเป็นช่วงอันตราย เราก็อย่าเพิ่งซื้อ อย่าเล่นแบบทุ่มสุดตัว คนที่มีฝีมือจะต้องรู้จักจังหวะ ใครเก่งไม่เก่งวัดกันตรงนี้
- ซื้อหุ้นให้ได้กำไร เราต้องกล้าไปจ่ายตลาดอาศัยเวลาตอนประมาณ ตี 5 หรือ อีก 1 ชั่วโมงฟ้าจะสว่าง ผี ไม่มีใครซื้อหุ้นจังหวะนี้คุณได้เลือกของดี ได้ซื้อของสดราคาไม่แพง ได้เลือกของก่อนคนอื่น รถไม่ติด คุณจะได้เปรียบเรื่องต้นทุน แต่คนที่เข้าในจังหวะนี้ได้จะรู้ว่าตอนนี้กี่โมง ต้องอาศัยเครื่องมือทางเทคนิเคิล มาช่วยในการคลำหาตำแหน่งเวลาร่วมกับประสบการณ์ของแต่ละคน
- เวลาเลือกหุ้นให้ใช้พื้นฐานแต่จังหวะซื้อต้องใช้เทคนิเคิล เฉพาะอย่างยิ่งตอนขายหุ้น เทคนิเคิลไม่เคยหลอกเลย ต้องกลับไปทบทวนตัวเองให้ดี
- การเล่นหุ้น เรารู้เราเก่งของเราแค่ตัวเดียวพอ ขออย่างเดียว หุ้นที่เราซื้อต้องตอบคำถามได้ว่า เราเล่นหุ้นตัวนี้เพราะอะไร ทำธุรกิจอะไร ขึ้นเพราะอะไร เหตุผลคืออะไร เปลี่ยนชื่อเพราะอะไร ต้องการสร้างภาพพจน์ให้ดีขึ้นหรือเปล่า
- ถ้าตลาดหุ้นอยู่ในทิศทางขาลง หรือมีภาวะอึมครึมมาพักใหญ่แล้ว ในขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค เช่น RSI MACD ยืนยันสัญญาณเปลี่ยนแนวโน้ม เราต้องเตรียมตัวซื้อหุ้น
- คัทลอส หุ้นที่กำลังจะกลายเป็นเนื้อร้าย ออกจากพอร์ต ก่อนที่เนื้อร้ายชิ้นนั้นจะกลายเป็นปัญหาใหญ่มาบั่นทอนจิตใจเราในภายหลัง
- ระหว่างที่จังหวะและโอกาสยังมาไม่ถึง นักลงทุึนอาจแบ่งเงินลงทุนบางส่วนมาเล่นหุ้นเก็งกำไร แต่ไม่ควรทุ่มเทเงินทั้งหมดมาเสี่ยงในสถานการณ์ที่เราไม่มั่นใจเต็มร้อย
- หุ้นต้องมีการปรับตัว ถูกตัดเอากำไรบ้าง ถ้าราคาปรับลงแล้วรีบาวด์ ขึ้นมาทำจุดสูงสุดใหม่ได้ หรือนิวไฮ มันจะรัน ต้องเสี่ยงวัดดวง นี่เป็นพฤติกรรมของหุ้นขาขึ้นแทบทุกตัว แต่เมื่อไรก็ตาม ถ้าหุ้นรีบาวด์แล้วไม่ทำนิวไฮ ต้องขายทิ้งออกไป
- ดูวอลุ่มเพิ่มเติมว่าถ้าหุ้นขึ้นแล้ว วอลุ่มหาย ให้สงสัยไว้ก่อนว่า มันกำลังจะวิ่ง แต่ถ้าหุ้นเป็นขาลงแล้ว วอลุ่มหาย นี่เป็นธรรมชาติ ถ้าขึ้นแล้ววอลุ่มหายแสดงว่า มีรายใหญ่เก็บหุ้นตัวนี้อยู่ จำนวนหุ้นหมุันเวียนในตลาดมันหายไป อย่างนี้สัญญาณดี ต้องเข้าไปดูแล้วว่าหุ้นตัวนี้มีอะไรดี
- การเล่นหุ้นเพื่อหวังกำไร 3-5% เป็นการลงทุนที่มีโอกาสรวยได้ยาก เพราะตัดสินใจซื้อขายบ่อย โอกาสผิดพลาดสูง ควรปล่อยให้วิ่งทำกำไรเต็มที่ เมื่อไรราคาเริ่มปรับฐานลงมาพร้อมวอลุ่ม เราต้องรีบล้างพอร์ตออกไป
- ปริศนาการตั้ง Bid หรือการเสนอซื้อ และ Offer การเสนอขายหลอกกันได้ไหม เพราะโดยปกติถ้าเราเห็ฯการตั้งขายไม้ใหญ่ๆ ถ้าอยู่ฝั่งขาย คนที่เห็นมักใจไม่ดี ซึ่งวอลุ่มฝั่งขายมักไม่ค่อยหลอก มักจะขายจริง แต่ฝั่งซื้อมันหลอกกันได้ นั่นคือเขากลัวลง เป็นการหนุน เพื่อให้คนซื้อตามแต่ถ้ามีคนเสนอซื้อเข้ามา อยากซื้อเท่าไร ก็มีหุ้นขายให้
- ในช่วงการสะสมหุ้น ถ้าเป็นหุ้นดี ให้สังเกตฝั่ง Bid จะน้อย ฝั่ง Offer จะเยอะ ภาวะอย่างนี้ คือช่วงที่ดัชนี Set ประมาณตี 4 ตี 5 คนยังเล่นหุ้นไม่เต็มตัวเขาจะรอรับแต่จะไม่ไล่ราคา สำหรับการลงทุันระยะสั้น การทำความเข้าใจกับแนวรับ หรือแนวต้าน นั้นมีความสำคัญอยู่ไม่น้อย ถ้าราคาหุ้นช่วงไหนที่ทุกคนซื้อขายนัวเนียอยู่แถวนี้แน่นมาก และนานพอสมควรถ้าจะฝ่าราคาตรงนี้ขึ้นไปได้ ต้องใช้เงินมาก
- วิธีการลงทุนแบบ VI ส่วนตัวมองว่ามันเสี่ยง บางทีหุ้นลงก็ต้องถือ เพราะคุณคิดว่าพื้นฐานมันไม่เปลี่ยน เดี๋ยวมันก็ต้องกลับมาแต่เมื่อไรล่ะ ถ้าคุณไม่ cut loss ตอนหุ้นลง มันเสียโอกาส
- วิธีการเล่นหุ้นต่อ 1 รอบ จำไว้เลยต้องเตรียมขาดทุันไว้ 10 % ของพอร์ตคุณเสมอ ผมกล้าพูดได้เลยว่าต่อให้เป็นเซียนเป็นโคตรเซียนแค่ไหนก็ตามคุณมี 100 ล้าน ก็ต้องเตรียมขาดทุนไว้ 10 ล้าน
- การเล่นหุ้นคุณไม่มีทางรู้จุดสูงสุดและจุดต่ำสุด ขายเร็วเกินไปเสียโอกาส เพราะฉะนั้น จุดขายคือ จุดกลับตัว เราจะรู้จุดกลับตัวก็ต้องรู้ว่าหุ้นรีบาวด์แล้วไม่ทำนิวไฮ
- ถ้ามั่นใจหุ้นตัวไหนมากๆ ก็ซื้อหุ้นตัวนั้นเก็บเอาไว้ครึ่งหนึ่งก่อน และเมื่อไร ที่เห็นปริมาณการซื้อขายเข้ามามากๆ ก็จะรีบซื้อหุ้นอีกครึ่งหนึ่งทันที กลยุทธ์นี้หมายถึงการหยั่งกำลังหุ้น หรือการโยนหินถามทาง
- คนที่จะเล่นหุ้นแล้วรวย จะต้องหาหุ้นในดวงใจให้ได้ก่อน
- ให้สังเกตว่าทุกครั้งที่ดัชนี set ขึ้นรอบใหญ่ๆ จะต้องมีหุ้นเด่นๆ ของมันอยู่ เราจะต้องหาให้เจอ
- การหาจังหวะลงทุนต้องใช้เทคนิเคิลช่วย
- แนะนำให้จดไดอารี่ทุกวัน นั่นคือการทบทวนตัวเอง คุณจะได้เก็บไว้อ่าน คุณเจ็บตรงไหน คุณโดนเทคนิเคิลหลอกอย่างไร ข้อผิดพลาดของนักลงทุนมักมาจากความดื้อรั้นของตัวเอง
- เก่งหุ้นแค่ทีละตัว หรืออย่างมากแค่ 3 ตัวพอ รู้ให้ลึก รู้ให้แตกฉาน แล้วทนรอกับมันให้ได้ แล้วคุณจะรวยมหาศาล
- ลงทุนให้รวย ต้องหาหุ้นในดวงใจให้เจอ และต้องนิ่ง อดทนรอให้หุ้นรันทำกำไร let the profit run
- ต้องรอจังหวะให้เครื่องมือทางเทคนิเคิลตัดขึ้นก่อน พื้นฐานหุ้นรองรับจุดสำคัญ ถ้าตลาดหุ้นช่วงไหนคนเริ่มกล้ัว คือจุดที่ปลอดภัยที่สุด ซื้อเสร็จใส่ปี๊บไว้เลย นี่คือเคล็ดลับ
- หลักการคือ ถ้าหุ้นตัวไหน รีบาวด์แล้วไม่ทำนิวไฮใหม่ต้องลง แต่จุดมั่นใจเราต้องดูวอลุ่มประกอบเวฟแรก
- คนที่เล่นหุ้นแล้วได้กำไรเยอะๆ เล่นแล้วรวยต้องถือยาว ในระยะเดือน ไม่ใช่ซื้อๆ ขายๆ ด้วยหวังกำไรเพียงเล็กน้อย และวิธีการซื้อจะต้องหยั่งกำลังหุ้นด้วยเงินที่ไม่มากก่อน อย่าเพิ่งทุ่มก้อนใหญ่
___________________________
ไม่ทราบเครดิตที่มา แต่ถ้าใครรู้ฝากบอกไว้ด้วยครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น