ความเป็น "สุดยอด" ของนักเล่นหุ้นธรรมดาๆ คนหนึ่ง ที่ลงทุนจากเงินก้อนเล็กๆ เพียง 2 ล้านบาท แล้วประสบความสำเร็จจนมีเงินนับ "พันล้านบาท"
จาก "ต้นกล้า" ฝ่าแดดต้านฝน จนเป็น "ไม้ใหญ่" เขาเป็น 1 ในนักลงทุนนับหมื่นคนที่ทำได้ "ถนนนักลงทุน" รวบรวมคำพูด และวลีเด็ดๆ จากกูรูหุ้นรายนี้
- ถ้าเราเลือกหุ้นพี/อี ต่ำ พื้นฐานดี แต่ซื้อแล้วราคาไม่ขึ้น..มีแต่ลง แสดงว่าความคิดของเรา "ผิด" คุณต้องเปลี่ยน "อย่าดันทุรัง"
- สมัยที่ยังเล่นหุ้นไม่เก่ง วิธีที่ผมใช้จะ "ลอกข้อสอบคนเก่ง" แต่ระหว่างที่เราลอกข้อสอบเขา เราก็ต้องพัฒนาตัวเองตามให้ทัน
- จากประสบการณ์มากกว่า 20 ปี จะซื้อหุ้นให้ได้กำไร เราต้องกล้าไปจ่ายตลาด "ตอนประมาณ ตี 5" หรือ อีก 1 ชั่วโมงก่อนฟ้าสาง...ผีไม่มี เฮียประธาน เขาเป็นเจ้าของคอร์ดแบดมินตันแถวถนนบางรัก ฉายาเขา คือ "พญาอินทรี" ถ้าวันไหนที่พวกเรา "เละ" หรือ "เจ๊ง" กันหมด เขาจะบินมาเลย..เขาจะมาซื้อหุ้น
- วิธีการเอาตัวรอด ในช่วงที่ต้องเผชิญกับ "วิกฤติการณ์" ทางเดียวที่จะทำให้เรา "รอด" คือ การตัดนิ้ว (Cut Loss) ยอมขาดทุนรักษาชีวิต
- การเล่นหุ้นเพื่อหวังกำไร 3-5% เป็นการลงทุนที่มีโอกาส "ร่ำรวยได้ยาก" เพราะการตัดสินใจซื้อ-ขายบ่อย โอกาสผิดพลาดจะสูง
- ในจังหวะที่หุ้นเป็นขาขึ้น เราต้อง Let the Profit Run ปล่อยให้กำไรวิ่งเต็มสตีม เมื่อไรที่ราคาเริ่มปรับฐานลงมาพร้อมวอลุ่ม เราต้องรีบล้างพอร์ตออกไป ท่องเอาไว้เลย "วอลุ่มพีค" คือ "ราคาพีค" และ ถ้าหุ้นปรับฐานแล้ว "รีบาวด์" แต่ไม่ทำ "นิวไฮ" ใหม่.."มันต้องลง"
- ถ้าหุ้นเป็น "ขาลง" แล้ว "วอลุ่มหาย" นี่เป็นตามธรรมชาติ แต่ถ้าหุ้นเป็น "ขาขึ้น" แล้ว "วอลุ่มหาย" นี่มันผิดกฎธรรมชาติ ให้สงสัยไว้ก่อนว่า "มันกำลังจะวิ่ง"
- กรณีที่หุ้นจะปรับตัว "ลงแรง" วอลุ่มมักจะทำ "พีค" ก่อน ให้สังเกตว่า รายย่อยจะแห่เข้าใส่แบบไม่ลืมหูลืมตา เวลาที่หุ้นปรับตัว มันจะ "ลงลึก"
- ในช่วงของการสะสมหุ้น ถ้าเป็น "หุ้นดี" ให้สังเกตฝั่ง Bid (ซื้อ) จะน้อย แต่ฝั่ง Offer (ขาย) จะเยอะ ภาวะอย่างนี้ คือ ช่วงที่ดัชนี SET ประมาณ ตี 4 ตี 5 คนยังเล่นหุ้นไม่เต็มตัว เขาจะรอรับ ไม่ไล่ราคา
- จุดที่มั่นใจที่สุด คือ จุดที่อันตรายที่สุด และจุดที่อันตรายที่สุด คือ จุดที่ปลอดภัยที่สุด นั่นคือ ประมาณ ตี 5 ถึง ตี 5 ครึ่ง ก่อนฟ้าสาง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น